5/09/2552

เปาบุ้นจิ้น

เปาเจิ่ง包拯
ชื่อจริง เปาเจิ่ง包拯






งาน-อาชีพ ข้าราชการ(ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร)


สัญชาติ จีนเชื้อชาติ จีน


วุฒิสูงสุด บัณฑิตหลวงอันดับ 1
เปาเจิ่ง (จีน: 包拯; พินอิน: Bāo Zhěng) , สมัญญาว่า "ซีเหริน" (จีน: 希仁; พินอิน: Xīrén; "ยอดคน") , นามที่ได้รับการเฉลิมเมื่อถึงแก่กรรมแล้วว่า "เสี้ยวสู้" (จีน: 孝肅; พินอิน: Xiàosù; "ผู้เป็นปูชนียะประหนึ่งบิดามารดา") หรือส่วน​คำ​ว่า​ เปาบุ้นจิ้น ​นั้น​ ​เป็น​คำในสำ​เนียงแต้จิ๋ว ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า​ เปาอุ๋นเจิ่ง ​หน้าสุสานบันทึก​ไว้​ว่า​ เปา​เซี่ยวซู่[1] มีชีวิตอยู่จริงในรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิเหรินจงแห่งราชวงศ์ซ่ง มีชื่อเสียงมากและเป็นที่สรรเสริญในด้านความซื่อสัตย์และความยุติธรรม กระทั่งต่อมาภายหลังได้รับยกย่องในเอเชียว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมและเป็นสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรมโดยทั่วไปแล้ว ผู้คนมักคำนึงว่าเปาบุ้นจิ้นเป็นตุลาการ แต่ความจริงแล้วงานตุลาการเป็นหน้าที่หนึ่งในครั้งที่รั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด เปาบุ้นจิ้นนั้นได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหลายประเภท โดยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหกเดือนก่อนถึงแก่อสัญกรรม


เปาบุ้นจิ้นนั้นเป็นที่เลื่องลือกันทั่วไปถึงความเข้มงวดในการปฏิบัติราชการ ความกตัญญูกตเวที และการปฏิเสธความอยุติธรรมและการทุจริตในหน้าที่ราชการชนิดหัวชนฝา ชื่อเสียงดังกล่าวทำให้เปาบุ้นจิ้นกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ยุติธรรม (จีน: 清官; พินอิน: qīngguān, ชิงกวน) และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วกระทั่งต่อมาได้รับความนับถือเลื่อมใสถึงขนาดยกย่องเสมอเทพเจ้า เรื่องราวเกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้นได้รับการเล่าขานและปรากฏตัวในรูปมุขปาฐะ จนสมัยต่อ ๆ มามีการสร้างสรรค์วรรณกรรมหลายเรื่องเกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้น เช่น เรื่อง "เปาเล่งถูกงอั้น" หรือ "ประมวลคดีของเปาบุ้นจิ้น" และเรื่อง "เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม" เป็นต้น ซึ่งวรรณกรรมเหล่านี้ได้มีการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ในชั้นปัจจุบัน และยังส่งผลระดับสูงถึงสูงมากต่อการปลูกฝังวัฒนธรรมที่ดีในประเทศที่มีการนำไปแพร่ภาพด้วย ทั้งนี้ ตามการวิจัยของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2541[1]วรรณกรรมข้างต้นทำให้เปาบุ้นจิ้นเป็นที่รู้จักในชื่อ "เปากง" (จีน: 包公; พินอิน: Bāo Gōng; "ปู่เปา" "ท่านเปา" หรือ "เจ้าเปา") "เปาไตจื้อ" (จีน: 包待制; พินอิน: Bāo Dāizhì; "ว่าที่ราชเลขาฯ เปา") "เปาหลงถู" (จีน: 包龍圖; พินอิน: Bāo Lóngtú; "เปาผู้เป็นประดุจมังกร" ชื่อนี้รู้จักในไทยว่า "เปาเล่งถู") และ "เปาชิงเทียน" (จีน: 包青天; พินอิน: Bāo Qīngtiān; "เปาผู้ทำให้ฟ้ากระจ่าง")เปาบุ้นจิ้นมีชีวิตอยู่ในช่วงก่อนสมัยสุโขทัยเมื่อเทียบกันแล้ว ส่วนชื่อ "เปาบุ้นจิ้น" ในไทยเป็นคำอ่านสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งสำเนียงจีนกลางว่า "เปาอุ๋นเจิ่ง" หรือ "เปาเหวินเจิ่ง"[2] นอกจากนี้ ในไทยเอง คำ "เปาบุ้นจิ้น" หรือ "ท่านเปา" ยังมีความหมายว่า ตุลาการ ศาล หรือผู้พิพากษาอีกด้วย และบางทีก็เจาะจงว่าหมายถึงตุลาการที่เที่ยงธรรมด้ว ]ประวัติเปาบุ้นจิ้นถือกำเนิดขึ้นในครอบครัวนักวิชาการแห่งนครเหอเฟย์ มณฑลอานฮุย ที่ซึ่งในปัจจุบันประดิษฐานวัดเจ้าเปา (จีน: 包公祠; พินอิน: Bāogōngcí; คำอ่าน: เปากงฉือ) วัดดังกล่าวสถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1609 ใกล้กับสุสานของเปาบุ้นจิ้นเปาบุ้นจิ้นนั้นเมื่ออายุได้ยี่สิบเก้าปีได้เข้ารับการทดสอบหลวง และผ่านการทดสอบระดับสูงสุด ได้รับแต่งตั้งเป็นบัณฑิตเรียกว่า "จินฉื่อ" (พินอิน: Jinshi) และต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงไคฟง อันเป็นเมืองหลวงแห่งประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ซ้งมีประวัติ​เล่าว่า​เปาบุนจิ้นรับราชการ​เป็น​เวลา​ 45 ​ปี​ ​ใน​ฝ่ายบริหาร​ ​เริ่มตั้งแต่นายอำ​เภอ​ ​เจ้า​เมือง​ ​ผู้​ตรวจราชการแผ่นดิน​ ​เจ้า​เมืองไคฟง ​เสนาบดีการคลัง​ ​เป็น​ต้น​ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งหน้าที่ในราชการ เปาบุ้นจิ้นไม่ปรานีและประนีประนอมกับความทุจริตใด ๆ เลย เปาบุ้นจิ้นนั้นมีนิสัยรักและเทิดทูนความยุติธรรม ปฏิเสธที่จะเข้าถึงอำนาจหน้าที่โดยวิถีทางอันมิชอบ บุคคลผู้หนึ่งที่ชิงชังเปาบุ้นจิ้นนักได้แก่ราชครูผัง (จีน: 龐太師; พินอิน: Pángtàishī; คำอ่าน: ผังไท้ชือ) อย่างไรก็ดี ยังไม่ปรากฏข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่แน่ชัดรับรองว่าราชครูผังผู้นี้มีความชิงชังในเปาบุ้นจิ้นจริง นอกจากนี้ การปฏิบัติราชการโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างไม่เห็นแก่หน้าผู้ใดยังทำให้เปาบุ้นจิ้นมีความขัดแย้งกับข้าราชการชั้นสูงบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีซ้งหยาง (พินอิน: Song Yang) เปาบุ้นจิ้นเคยสั่งลดขั้นตำแหน่งและปลดข้าราชการถึงสามสิบคนในคราเดียวกัน เหตุเพราะทุจริตต่อหน้าที่ราชการ รับและ/หรือติดสินบน และละทิ้งหน้าที่ราชการ กับทั้งเปาบุ้นจิ้นยังเคยกล่าวโทษจางเหยาจั๋ว (พินอิน: Zhang Yaozhuo) พระปิตุลาของพระวรชายา ถึงหกครั้ง อย่างไรก็ดี เนื่องจากความซื่อสัตย์และเฉียบขาดในการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมเด็จพระจักรพรรดิเหรินจงจึงมิได้พระราชทานราชทัณฑ์แก่เปาบุ้นจิ้นในอันที่ได้ล่วงเกินบุคคลสำคัญดังกล่าวนี้เพื่อนร่วมงานและผู้สนับสนุนคนสำคัญคนหนึ่งของเปาบุ้นจิ้น ได้แก่ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอพระองค์ที่แปดในสมเด็จพระจักรพรรดิ (จีน: 八王爺; พินอิน: Bāwángyé; คำอ่าน: ปาหวังอี๋ ในละครโทรทัศน์เรื่องเปาบุ้นจิ้นที่พากย์เป็นภาษาไทยมักเรียกว่า "อ๋องแปด") สมเด็จพระบรมวงศ์เธอผู้นี้เป็นพระมาตุลาในสมเด็จพระจักรพรรดิเหรินจงเปาบุ้นจิ้นไม่เคยรับของขวัญใด ๆ เลยแม้จะเป็นชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงคำครหาและความไม่เหมาะสมต่าง ๆด้านความเป็นอยู่ส่วนตัวและอัธยาศัยนั้น ประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ว่า เปาบุ้นจิ้นเป็นคนตรงไปตรงมา รังเกียจข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง และกดขี่ขูดรีดประชาชน แม้จะเกลียดคนเลวแต่ก็มิใช่เป็นคนดุร้าย เปาบุ้นจิ้นเป็นคนซื่อสัตย์และให้อภัยคนทำผิดโดยไม่เจตนา กับทั้งไม่เคยคบคนง่าย ๆ อย่างไร้หลักการ ไม่เสแสร้งทำหน้าชื่นและป้อนคำหวานเพื่อเอาใจคน มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน จึงไม่มีฝักไม่มีฝ่าย แม้ว่ายศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่ง แต่เสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย และอาหารการกินก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อครั้งยังเป็นสามัญชนเลยการที่เปาบุ้นจิ้นได้รับยกย่องว่าเป็นประดุจเทพเจ้าแห่งความยุติธรรมทำให้ชาวจีนเชื่อว่า เปาบุ้นจิ้นนั้นกลางวันตัดสินคดีความในมนุษยโลก กลางคืนไปตัดสินคดีความในยมโลก



ในงิ้วตลอดจนในละครและภาพยนตร์ ผู้แสดงมักแสดงเป็นเปาบุ้นจิ้นโดยมีใบหน้าสีดำ และมีพระจันทร์เสี้ยวอันเป็นเครื่องหมายที่มีมาแต่กำเนิดประดิษฐานอยู่บนหน้าผาก กับทั้งเปาบุ้นจิ้นยังใช้เครื่องประหารเป็นชุดซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระจักรพรรดิอีกด้วย



โดยชุดเครื่องประหารประกอบด้วย เครื่องประหารหัวสุนัขสำหรับประหารอาชญากรที่เป็นสามัญชน เครื่องประหารหัวพยัคฆ์สำหรับอาชญากรที่เป็นข้าราชการและผู้มีบรรดาศักดิ์ และเครื่องประหารหัวมังกรสำหรับพระราชวงศ์ นอกจากนี้ เปาบุ้นจิ้นยังได้รับพระราชทานหวายทองคำจากสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ก่อนโดยให้สามารถใช้เฆี่ยนตีสั่งสอนสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันได้ และกระบี่อาญาสิทธิ์โดยให้มีอาญาสิทธิ์สามารถประหารผู้ใดก็ได้นับแต่สามัญชนจนถึงเจ้าโดยไม่ต้องได้รับพระราชานุญาตก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ แต่หลังจากประหารแล้วให้จัดทำรายงานกราบบังคมทูลทราบพระกรุณาด้วย เป็นที่มาของสำนวนจีนว่า "ฆ่าก่อน รายงานทีหลัง" (จีน: 先斬後奏; พินอิน: xiānzhǎnhòuzòu, เซียนฉ่านโฮ้วโจ้ว)



ในวรรณกรรมจีนหลายเครื่อง ระบุถึงคดีสำคัญที่ได้รับการตัดสินโดยเปาบุ้นจิ้น ดังต่อไปนี้
คดีฉาเม่ย (จีน: 鍘美; พินอิน: zháměi) : เปาบุ้นจิ้นได้ตัดสินประหารเฉินชื้อเม่ย (จีน: 陳世美; พินอิน: Chénshìměi) ผู้ทอดทิ้งภรรยาไปสมรสกับพระราชวงศ์จนได้รับพระราชทานยศเป็นพระราชบุตรเขย และต่อมาได้พยายามฆ่าภรรยาผู้นั้นเนื่องจากนำความไปร้องต่อศาลกรุงไคฟง ชื่อคดีนี้รู้จักกันทั่วไปจากละครโทรทัศน์ชุดเปาบุ้นจิ้นในชื่อ "คดีประหารราชบุตรเขย"
คดีหลีเมาฮ้วนไท้จี๋ (จีน: 貍貓換太子; พินอิน: límāohuàntàizǐ) : หรือคดีเกี่ยวกับการทำลายชื่อเสียงของพระวรชายาด้วยการลักลอบนำชะมดมาสับเปลี่ยนกับพระราชโอรสที่เพิ่งมีประสูติกาลและต่อไปจะได้ทรงเป็นมกุฎราชกุมาร คดีนี้มีขันทีชื่อกัวหวาย (จีน: 郭槐; พินอิน: Guōhuái) เป็นจำเลย
ขันทีกัวหวายนั้นสนับสนุนงานของเปาบุ้นจิ้นมาตลอดและเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของสมเด็จพระจักรพรรดิ ทำให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปได้โดยลำบาก เปาบุ้นจิ้นจึงปลอมตัวเป็นหยานหลัว (จีน: 阎罗; พินอิน: Yánluó; มัจจุราช) และจำลองยมโลกขึ้นเพื่อล่อลวงให้ขันทีรับสารภาพ ชื่อคดีนี้รู้จักกันทั่วไปจากละครโทรทัศน์ชุดเปาบุ้นจิ้นในชื่อ "คดีสับเปลี่ยนองค์ชาย" ​ประวัติของเปาบุ้นจิ้น​ส่วน​ใหญ่​เน้นที่การตัดสิน​ความ​ ​แม้ว่า​ความ​จริง​แล้ว​ ​เปาบุ้นจิ้น​ไม่​ได้​มีอาชีพ​เป็น​ตุลาการ​โดย​ตรงก็ตาม​ ​ความ​เด็ดเดี่ยว​ ​กล้าตัดสินใจ​ ​ทำ​ให้​ผู้​คนพา​กัน​ยกย่อง​ ​และ​คอยร้องทุกข์ต่อเปาบุ้นจิ้นเสมอ เปาบุ้นจิ้นมีหลัก​ใน​การบริหารว่า​ "จิตใจสะอาด​ ​บริสุทธิ์​ ​คือหลักแก้​ไขปัญหามูลฐาน​ ​ความ​เที่ยงตรง​เป็น​หลัก​ใน​การดำ​เนินชีวิต​ ​จงจดจำ​บทเรียน​ใน​ประวัติศาสตร์​ไว้​ ​อย่า​ให้​คนรุ่นหลังเย้ยหยัน​ได้​" นอกเหนือ​จาก​การตัดสินคดีอย่างตรงไปตรงมา​แล้ว​ ​เปาบุ้นจิ้นก็​ยัง​มีชื่อเสียง​ ​ใน​ฐานะข้าราชการตงฉิน ​ไม่​เคยรับสินบน​ใดๆ​ ​แม้​จะ​เป็น​ของขวัญ​เล็กๆ​ ​น้อยๆ​ ​ก็ตาม มีการเขียนยกย่องเปาบุ้นจิ้น​ไว้​ใน
​หนังสือประวัติศาสตร์จีน​ ​ว่า​ ​"​เป็น​คนตรงไปตรงมา​ ​รังเกียจข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง​ ​และ​กดขี่ขูดรีดประชาชน​ ​แม้​จะ​เกลียดคนเลว​ ​แต่ท่านก็มิ​ใช่​เป็น​คนดุร้าย​ ​ท่าน​เป็น​คนซื่อสัตย์​และ​ให้​อภัยคนทำ​ผิด​โดย​ไม่​เจตนา​ ​ท่าน​ไม่​เคยคบคนง่ายๆ​ ​อย่างไร้หลักการ​ ​ไม่​เสแสร้งทำ​หน้าชื่น​และ​ป้อนคำ​หวานเพื่อเอา​ใจคน​ ​ท่านมีชีวิต​ความ​เป็น​อยู่​อย่างเปิดเผย​ ​ไม่​มีลับลมคม​ใน​ ​จึง​ไม่​มีฝัก​ไม่​มีฝ่าย​ ​แม้ว่ายศฐาบรรดาศักดิ์สูงส่ง​ ​เสื้อผ้า​ ​เครื่อง​ใช้​และ​อาหารการกินก็​ไม่​ได้​แตกต่าง​จาก​เมื่อครั้ง​ยัง​เป็น​คนสามัญธรรมดา​เลย​ ​เปาบุ้นจิ้นนับว่า​เป็น​คนที่มีอายุยืนยาวคนหนึ่ง​ ​เปาบุ้นจิ้นมีอายุ​ถึง​ 105 ​ปีก่อน​จะ​สิ้นใจ




ข้อเท็จจริง​ใน​ประวัติศาสตร์​เกี่ยว​กับ​เปาบุ้นจิ้นนี้มีปรากฏการบันทึก​ไว้​เพียง​เล็ก​น้อย​ ​แต่มีการแต่ง​ไว้​ใน​เรื่องพื้นบ้าน​ ​นิทาน​ ​หรือ​ละครมากมาย​ ​ซึ่ง​นับ​ได้​ว่า​เรื่องราวการสอบสวนคดีของเปาบุ้นจิ่น​ ​ถือ​เป็น​นิยายแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกของโลก​ด้วย​ ​ไม่​ว่า​จะ​เรื่องราวเหล่า​นั้น​แปลกออกไปเพียง​ใด​ ​เนื้อแท้ก็คง​ยัง​ต้อง​การสะท้อน​ความ​จริงที่ว่าสังคม​ยัง​ต้อง​การยกย่องคนทำ​ดี​ ​และ​มี​ความ​ชื่นใจที่คนทำ​ชั่ว​ได้​รับผลกรรม เกียรติศัพท์และคดีของเปาบุ้นจิ้นได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ยอดนิยมในปัจจุบันหลายครั้งหลายคราอนึ่ง ได้มีการนำรูปเคารพที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นหลังจากเปาบุ้นจิ้นถึงแก่อนิจกรรมนั้นมาประดิษฐานในประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่อเนกกุศลศาลา ใกล้กับวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีปัจจุบัน​ ​เปาบุ้นจิ้น​ได้​รับการเคารพยกย่องเสมือนเทพเจ้าองค์หนึ่ง​ ​ทั้ง​จาก​ชาวจีนแผ่นดิน​ใหญ่​ ​ชาวจีนโพ้นทะ​เล​ ​และ​ชนชาติ​แม้กระทั่งชาวไทย​ ​และ​มีการสร้างเรื่องราว​เป็นภาพยนตร์และ​ละครโทรทัศน์หลายต่อหลายครั้ง รูปเคารพที่ว่า​กัน​ว่าสร้างหลัง​จาก​เปาบุ้นจิ้น​ถึง​แก่อนิจกรรม​ได้​นำ​มา​ไว้​ใน​เมืองไทย​โดย​ตั้ง​อยู่​ที่อเนกกุศลศาลา (วิหารเซียน) ​ใกล้​กับวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อ​.​บางละมุง จ​.​ชลบุรี




คณะเปาบุ้นจิ้นตามวรรณกรรมในวรรณกรรมจีนส่วนใหญ่ เปาบุ้นจิ้นมีคณะผู้ช่วย ประกอบด้วยองครักษ์ จั่นเจา (พินอิน: Zhan Zhao) ชายผู้มีพละกำลังมหาศาลและมีฝีมือในการต่อสู้ชนิดยากหาใครเทียบได้ ในวรรณกรรมบางเรื่อง องค์รักษ์จั่นเจาถือว่าเป็นตัวแทนแห่งฝ่ายทหารหรือฝ่ายบู๊ ในขณะที่เปาบุ้นจิ้นเป็นตัวแทนแห่งฝ่ายพลเรือนหรือฝ่ายบุ๋น ที่ปรึกษาและเลขานุการ


กงซุนเช่อ (พินอิน: Gongsun Ce) ชายผู้มีสติปัญญาและความซื่อสัตย์เป็นเลิศที่คอยช่วยเหลือเปาบุ้นจิ้นในกิจการต่าง ๆ กงซุนเช่อนี้เชื่อกันว่ามีที่มาจากขงเบ้งของเล่าปี่ในวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก เจ้าหน้าที่ใหญ่สี่นาย หวังเฉา, หม่าฮั่น, จางหลง และจ้าวหู่ (พินอิน: Wang Chao, Ma Han, Zhang Long, Zhao Hu) ซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาขององค์รักษ์จั่นเจาอีกทอดหนึ่ง โดยสองนายแรกเป็นองค์รักษ์ฝ่ายซ้ายของเปาบุ้นจิ้น อีกสองเป็นฝ่ายขวา ผู้ช่วยทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และความสามารถศาลไคฟงศาลไคฟงอันเป็นที่ว่าความของเปาบุ้นจิ้นนั้น ปัจจุบันอยู่ในอำเภอไคฟงหรืออดีตคือกรุงไคฟง จังหวัดเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เดิมจมน้ำพังทลายไปหมดสิ้น ต่อมารัฐบาลจีนได้บูรณะขึ้น ปัจจุบันในเวลาเก้านาฬิกาของทุก ๆ วัน จะมีผู้แต่งกายเป็นเปาบุ้นจิ้นออกมาเปิดศาลไคฟงรับเรื่องราวร้องทุกข์และพิจารณาคดี นอกจากนี้ ที่ศาลใหม่ดังกล่าวมีการจัดแสดงไว้ที่หน้าห้องว่าความซึ่งชุดเครื่องประหารของเปาบุ้นจิ้น ด้านในห้องมีหุ่นขี้ผึ้งของคณะเปาบุ้นจิ้น ด้านมี "ชิงซินโหลว" หรือ "บ้านใจบริสุทธิ์" เชื่อกันว่าเป็นจวนของเปาบุ้นจิ้น โดยเป็นหอสูงสี่ชั้น ชั้นที่หนึ่งปัจจุบันมีรูปปั้นเปาบุ้นจิ้นอยู่ รูปปั้นนี้หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ สูง 3.8 เมตร หนัก 5.6 ตัน นับเป็นรูปปั้นที่หนักที่สุดในเมืองจีน

3 ความคิดเห็น:

ิBichar กล่าวว่า...

อ่านเจอข้อความที่ซ้ำกันไปมาค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่ทำไว้ไห้ผู้คนได้อ่านขอบคุณมากๆค่ะ

หี กล่าวว่า...

ความรู้เพิ่มค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

เรายังสับสน ว่าตกลง เปาบุ้นจิ้น มีอายุ ๖๓ ปี หรือ ๑๐๕ ปี