ประชากรส่วนใหญ่ในคุนหมิงเป็นชาวจีนฮั้น และใช้ภาษาท้องถิ่นซึ่งมีสำเนียงที่จัดอยู่ในกลุ่มแมนดารินใต้แต่ภาษามาตรฐานกลางหรือภาษา Mandarin ก็เป็นภาษาที่ใช้สื่อสาร และเข้าใจกันได้ทั่วไป เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีจึงถูกขนานนามว่า "นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ"
เมืองคุนหมิงตั้งอยู่บนที่ราบสูงในมณฑลยูนนาน มีภูเขาล้อมรอบตัวเมือง 3 ด้าน อาณาเขตทิศใต้ติดกับทะเลสาบ สูง 1,850 เมตรจากระดับน้ำทะเล มณฑลยูนนานมีชื่อเสียงอันดีงามว่าเป็น "ทางใต้เมฆสี" "แหล่งเกิดเขียวชอุ่ม ณ ที่นี้มีภูเขา และแม่น้ำลำธารสวยสดงดงาม มีวิวทัศน์ธรรมชาติสวยวิจิตระการตามีภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยหิมะตลอดปีในซีกโลกเหนือ มีป่าดึกดำบรรพ์อันหนาทึบ มีหุบเขาอันลึกลับและอันตราย มีสิ่งมหัสจรรย์ป่าหิน ถ้ำหิน และถ้ำหินย้อยที่ก่อขึ้นจากการผันแปรของลักษณะภูมิประเทสคาร์สท์....สิ่งเหล่านี้ทำให้ยูนนานกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานทางทัศนียภาพธรรมชาติคุนหมิงเป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมหลักคือ ด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น เรื่องการจัดระเบียบต่างๆ รวมทั้งสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในเมืองจึงทำได้ดี มีสถานที่สำหรับเดินเล่นพักผ่อนหย่อมใจมากมายหลายแห่ง ทั้งภายในตัวเมืองและรอบๆ ตัวเมือง และยังมีค่าครองชีพที่นับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆ อย่างปักกิ่งหรือ เซี่ยงไฮ้
เงินตรา สกุลเงินของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนคือเงินเหยินหมินปี้ ( Renminbi แปลตามตัวว่าเงินของประชาชน ) มักใช้ตัวย่อ RMB หน่วยเงินของจีนเรียกว่าหยวน ( yuan ) หนึ่งหยวนมีสิบเจี่ยว ( jiao )หรือเหมา หนึ่งเจี่ยวมีสิบเฟิน ( fen ) 100 เฟินเท่ากับหนึ่งหยวน ธนบัตรแบ่งออกเป็นใบละ 1 หยวน , 5 เจี่ยว , 1,2 และ 5 เฟิน เฟินเป็นหน่วยเล็กสุด < เจี่ยวหรือเหมาเป็นหลักสิบ < จากนั้นเป็นหยวน
ประวัติศาตร์คุนหมิง ปี พ.ศ. 1308 มีการสร้างเมืองขึ้นในบริเวณนี้ เมืองนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ถัวตง (Tuodong) ราวศตวรรษที่ 13 มาร์โค โปโล ได้เดินทางมายังดินแดนแห่งนี้ และเขียนบันทึกบอกเล่าความประทับใจ ต่อมาเมืองนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น คุนหมิง โดยเหล่าชนชั้นปกครองชาวมองโกลแห่งราชวงศ์หยวนเมื่อปี พ.ศ. 1819
ราวศตวรรษที่ 14 คุนหมิงถูกยึดอำนาจกลับคืนโดยราชวงศ์หมิง และมีการสร้างกำแพงล้อมรอบส่วนที่เป็นเมืองในปัจจุบัน ในศตวรรษที่ 20 คุนหมิงตกเป็นเป้าของการโจมตีจากกองทัพอากาศหลวงญี่ปุ่นเมื่อครั้งที่บุกจีนแผ่นดินใหญ่
สถานที่ท่องเที่ยว
ตำหนักทองจินเตี้ยน ซึ่งสร้างโดยแม่ทัพในสมัยราชวงศ์หมิง อดีตเคยเป็นที่พักของ อู๋ซันกุ้ย ขุนศึกผู้ขายชาติ และนางงามเฉินหยวนหยวนเป็นตำหนักแห่งเดียวที่มีฝาผนัง และหลังคาสร้างด้วยทองเหลืองถึง380 ตัน จึงทำให้ตำหนักมีความสวนเด่น แลดูเสมือนทอง จึงได้ชื่อว่าตำหนักทอง จึงนับได้ว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ประตูมังกร เขาซีซาน คนจีนกล่าวไว้ว่ามาถึงคุนหมิงจะต้องไปลอดประตูมังกร เมื่อลอดแล้วฐานะจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยเท่า มีตำนานเล่ากันมาว่า ในสมัยก่อนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดคือแม่น้ำเหลืองจะมีปลาหลีหือซึ่งเป็นปลาประจำชาติของจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ครั้งหนึ่งเกิดน้ำท่วมทำให้ปลาไหลไปอยู่ตามแม่น้ำสายอื่น เมื่อปลาไปอยู่แม่น้ำอื่นปลาไม่ชินกับคุณภาพน้ำจึงมีความพยายามว่ายทวนน้ำเพื่อกลับไปอยู่ในแม่น้ำเหลืองของปลา ท่านเลยสั่งให้ไปสร้างประตูตรงแม่น้ำเหลือง ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามประตูได้ ท่านก็จะให้เป็นมังกร ถ้าปลาตัวไหนกระโดดข้ามไม่ได้ ก็ต้องไปอยู่ในแม่น้ำเหลือง ปลาก็เลยมีความพยายามไปกระโดดข้ามประตูเพื่อเป็นมังกร เลื่อนจากปลาเป็นมังกรถือว่าฐานะของปลาเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ดังนั้นประตูมังกรเหมือนเป็นการสอนคนจีนมาโดยตลอด คือเมื่อเรามีความพยายามก็จะประสบความสำเร็จ ตั้งห่างจากตัวเมือง 29 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของวัดในลัทธิเต๋า สร้างในช่วง ค.ศ.1718-1843 ผ่านอุโมงค์หินที่สกัดไว้ตามไหล่เขา พร้อมชมศาลเจ้าและวัดจีนลัทธิเต๋า ซึ่งสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับ 1,000 ปี ชมความงดงามของ ทะเลสาบคุนหมิง เตือนฉือ จากมุมมองจากที่สูง มาลอดประตูมังกร หลงเหมิน ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง
ถ้ำจิ่วเซียง เป็นถ้ำมหัศจรรย์ของจีนที่สวยงามมากและเป็น 1 ใน 10 สถานที่สำคัญทางธรรมชาติของมณฑลยูนาน ถ้ำนี้เกิดจากการกัดเซาะของภูเขาไฟโบราณ จนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดยาว 3-4 กิโลเมตรช่วงแรกจะเดินผ่านไปทางเส้นทางที่ขนานไปกับภูเขาสูง เข้าชมความงามภายในถ้ำจิ่วเซียง ที่ประกอบด้วยหินงอกหินย้อยที่สวยงามรูปร่างแปลกตาเต็มไปด้วยสีสันสวยงาม ซึ่งประกอบเสมือนเป็นโลกใต้ดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ ชมธารน้ำตกถ้ำเล็กๆอยู่ภายใน อาทิ ถ้ำช้างเผือก, ถ้ำค้างคาว, วังเทพธิดา, ถ้ำเทวดา, ถ้ำนา ขั้นบันได ฯลฯ สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดภายในถ้ำนี้ก็คือตอนกลางของถ้ำจะมีลำน้ำทั้งสายลงมาจากหน้าผาตกลงมาเป็นน้ำตก 2 สาย เรียกกันว่า น้ำตกผัวเมีย เป็นน้ำตกใหญ่และตกอยู่กลางระหว่างถ้ำเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก สมกับคำกลอนที่ว่า บนดินชมป่าหินงาม ใต้ดินชมจิ่วเซียง
ป่าหินยูนนาน ตั้งอยู่ในอำเภอสือหลินเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานของประเทศจีน ป่าหินแห่งนี้มีรูปลักษณ์ต่างๆของหินทั่วโลก อย่างเช่นที่ ป่าหินใหญ่ หินส่วนใหญ่มีรูปเหมือนเป็นดาบ เมื่อไปถึงอีกแห่งหนึ่ง หินจะมีรูปคล้ายเจดีย์ ไปถึงอีกที่หนึ่ง หินที่นั่นก็ดูเหมือนเห็ด มีทั้งสีดำและสีเหลือง มีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเคยบอกว่า เมื่อมาถึงป่าหินแล้ว รู้สึกเดี๋ยวก็อยู่คิวบา เดี๋ยวก็ถึงสเปน เหมือนกับว่า ป่าหินในทั่วโลกได้ย้ายมาอยู่ที่นี่วางแสดง ป่าหินคุนหมิงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก"
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618 – ค.ศ.907) จนถึงปัจจุบัน เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่ที่ถนนหยวนทงเจียง เป็นอารามทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในคุนหมิง ภายในวัดตกแต่งร่มรื่นสวยงาม กลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานข้ามไปสู่ศาลาแปดเหลี่ยมกลางสระ ปัจจุบันวัดหยวนทงจะเป็นลักษณะของวัดในสมัยราชวงศ์ชิง เนื่องจากวัดนี้ได้ถูกทำลายในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะโดยหูซาน ผู้เป็นคนพลิกประวัติศาสตร์จีน เป็นผู้ที่ทำให้ประเทศจีนเกิดราชวงศ์ชิง ภายในวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย ได้แก่นิกายมหาญาณของพม่า นิกายหินญาณของไทย และนิกายลามะของธิเบต
ที่มา
http://siritep.multiply.com/photos/album/59/59#photo=5
http://www.youtube.com/watch?v=JHo4KmWqChA&feature=player_embedded#at=11
http://www.oknation.net/blog/mrtaweesak/2008/08/31/entry-1
http://www.btnewstartour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539117136
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%87
http://www.คุนหมิง.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น